25 มกราคม 2567

เพื่อนมันเล่าให้ฟัง

จริงๆ มันจบไปตั้งนานแล้วไม่รู้จะยื้อจะฝืนให้มันได้อะไร จากที่ยังพอคุยกันได้ในฐานะเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก กลายเป็นว่ายิ่งยื้อยิ่งฝืนยิ่งทำลายความความสัมพันธ์ ทำลายความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน เขาอาจจะมองว่ามันไม่มีค่าก็ได้ ไม่เคยรักษาความรู้สึกกันเลย เคยคิดว่ารับที่เขาเคยเป็น ที่เป็นอยู่ได้ แต่เวลาตอนที่ทำความรู้จักกันในทีแรกมันคงน้อยไป ยิ่งนานวันยิ่งรู้จักมากขึ้น อยู่ด้วยกันมากขึ้นทำให้รู้เลยว่ามันเสียเวลาเปล่า นึกว่าจะเปลี่ยนเขาได้ เขาจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ แต่ไม่ใช่เลย มันคงผิดที่เราเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ใครไม่ได้ ยังไม่มีความมั่นคง ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง สร้างอะไรใหม่ขึ้นมาไม่ได้ ที่มีอยู่ก็มีแต่จะสูญเสียมีแต่จะพังลงไป มีแต่ความน่าเบื่อไม่มีสีสัน ไม่มีความน่าตื่นเต้นอะไรเลย ทำไรก็ไม่เป็น ทำอะไรก็ผิดพลาดไปเสียหมด คงโทษเขาไม่ได้หรอก แต่หลังจากนี้คือไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่ และหวังว่าจะเจอกันให้น้อยที่สุด ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะรู้สึกอะไรกับเขามาก แต่เพราะสิ่งที่เขาทำดีกับเรา รู้ใจเราในหลายเรื่อง มันรู้สึกไปมากอยู่ เสียใจนะที่เป็นแบบนี้ แต่ให้เอาใหม่ เริ่มใหม่คงจะไม่แล้ว พอแค่นี้ดีกว่า อยู่คนเดียวเหมือนเดิมแหละดีแล้ว ให้เหมือนที่เป็นอยู่ตอนแรก คิดว่าถ้ายังไม่มีความมั่นคงพอก็คงจะไม่มีใคร จะยังไม่เอาใครเข้ามาในชีวิตอีก คงจะหมดแล้วที่อยากจะระบายความรู้สึกออกมา และไม่ต้องห่วงไม่ต้องสงสัยผมก็ยังเป็นผมคนเดิมเหมือนก่อนจะรู้จักกับเขา ที่เพิ่มเติมคืออาจเขวๆ จิตใจไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยไปบ้าง อย่าถือสา..หวังว่าจะเข้าใจนะ...

ปล. ทั้งหมดนี้เพื่อนมันเล่าให้ฟัง 😞

06 กรกฎาคม 2566

นักจิตวิทยา บอกว่า เราสามารถวัดความเครียด ไม่เครียด ได้ง่าย ๆ โดยให้มองภาพต่อไปนี้

นักจิตวิทยา บอกว่า เราสามารถวัดความเครียด ไม่เครียด ได้ง่าย ๆ โดยให้มองภาพต่อไปนี้ 


หาก
1. วงกลมหมุนติ้ว = ท่านเครียดมาก*
2. วงกลมหมุนไปเรื่อยๆ = มีความเครียดอยู่มากพอสมควร
3. วงกลมขยับนิด ๆ แต่ไม่หมุน = มีความเครียดเล็กน้อย พอจะมีความสุขได้พอสมควร
4. แต่ถ้าหาก วงกลมหยุดนิ่งไม่หมุนเลย = คุณเป็นคนโชคดีที่สุด ที่สามารถปล่อยวางเรื่องต่าง ๆ ได้มาก ไม่มีอะไรรบกวนจิตใจคุณ

ถ้าตั้งใจทำสมาธิหรือปฏิบัติธรรม คุณจะมีความเจริญก้าวหน้าทางธรรมมากกว่าผู้ใด

8 สิงหาคม 2533

8 สิงหาคม พ.ศ. 2533
วันที่ : 8 ( พุธ ) แรม 2 ค่ำ
เดือน : สิงหาคม ( เดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ )
พุทธศักราช : 2533 ( ปีมะเมีย )
คริสตศักราช : 1990
ราศี : กรกฎ


คนที่เกิดวันนี้ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2533
คำทำนายจากวันที่เกิด คนที่เกิดวันพุธ จะมีโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่สบายได้เสมอไป แต่เป็นคนมีเสน่ห์ เพราะจิตใจดี มีน้ำใจไมตรีทุกทุกคน แต่พึ่งพาญาติพี่น้องไม่ได้นักมักจะต้องเกื้อหนุนญาติเสียงเอง เป็นคนที่ฝักใฝ่สนใจในเรื่องธรรมะเรื่องของศาสนา ถ้าบวชก็จะเด่นดังในวงการศาสนาแน่นอนถึงไม่บวชก็มีจิตใจมากด้วยคุณธรรมอยู่แล้ว ไม่เคยคิดเบียดเบียนใคร ไม่มีพิษภัยกับใครทั้งนั้น อุปนิสัยทั่วไปเป็นคนพูดจาเปิดเผย ไม่ปิดอำพราง ไม่มีลับลมคนในกับใคร ทำอะไรไม่ค่อยคิดให้ถ้วนถี่ มักสะเพร่า แต่ไม่เกียจคร้านแม้จะพูดจาเอะอะตรงไปตรงมาประสาคนซื่อ แต่มีความรักและซื่อสัตย์กับเพื่อนฝูงเสมอ ใจกว้าง ชอบเป็นเจ้าบุญทุ่ม ชอบเลี้ยงเพื่อนฝูงให้มีความสุข ชอบเที่ยวเตร่หาความสำราญ นิยมเรื่องเพลงเรื่องบันเทิงใจ ไม่ค่อยจะเคร่งเครียดเป็นทุกข์วิตกกับเรื่องอะไรมากนักถึงมีเรื่องให้ทุกข์ก็ไม่เก็บมาคิดให้ทุกข์ใจ จนดูเหมือนเป็นคนเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เอาแต่สบาย บางครั้งโกรธง่ายเพราะขี้น้อยใจ หูเบา ชอบคนเอาใจมากกว่าจะชอบคนมาตำหนิ แต่ไม่เคยโกรธใครจริงจัง ถูกหลอกง่าย เชื่อคนง่าย เจ้าชู้ ใจอ่อนใจง่าย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกลอกกลิ้งแต่อย่างใด ชะตาชีวิตไม่ได้อยู่ ปรนนิบัติ พ่อแม่ มักคบหาเพื่อนอายุมากกว่าหรือฐานะหน้าที่สูงกว่า แต่ถ้าคบเพื่อนต่ำต้อยกว่าจะเดือดร้อน ได้ทำงานอื่นจะรุ่งโรจน์กว่าทางค้าขาย ยามหนุ่มสาวจะปล่อยชีวิตไปตามใจ เมื่ออายุมากขึ้นถึงจะตั้งหลักได้และจะรวยเร็วด้วย สำหรับวันพุธ (กลางคืน) คนที่เกิดวันราหู มักเป็นคนที่ดื้อรั้นแบบถาวร คือแม้อายุมากแล้วก็ยังดื้อดึงไม่ฟังใคร ไม่ยอมรับแก้ไขปรับปรุงตัวเองอย่างคนทั่วไป แต่บางคราวกลับเชื่อคนง่าย เชื่อคนผิดๆ คือชอบใครก็เชื่อ ทั้งๆ ที่เขาไม่จริงใจ คนจริงใจด้วยกลับไมรู้ค่า ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เพื่อนพ้องและเครือญาติมาคอยเบียดเบียนเสมอ ฐานะลุ่มๆ ดอนๆ มีหลักทรัพย์แต่ไม่มีเงินทองพอใช้จ่าย มีความรู้ความสามารถ มีความตั้งใจสูง แต่กลับยากที่จะประสบความสำเร็จ มารดามักจะจากไปก่อนบิดา ถ้าจะตั้งตัวได้อย่างมั่นคงต้องเมื่อมีอายุมากแล้ว และเลือกอาชีพครูสอนเรื่องธรรมะ เรื่องวิชาช่างจึงจะดีได้ ด้านดี : ปฏิภาณไหวพริบดี มีศิลปะในการพูดหรือ เจรจา มีเชาวน์ปัญญา ชอบศึกษา ค้นคว้า ช่างคิด ช่างพูด การประชาสัมพันธ์ดี การเอกสารดี การคมนาคมดี มีเหตุผล ด้านเสีย : ไม่รอบคอบ สะเพร่า โลเล พูดจาเลอะเทอะ พูดไม่มีสาระ ไม่มีเหตุผล เชื่อคนง่าย ถูกหลอกลวงง่าย ถูกโกงง่าย เอกสารสัญญาผิดพลาด อารมณ์วู่วามหงุดหงิดง่าย เดือดร้อนเพราะคำพูด การงานที่เหมาะตามวันเกิด : เกี่ยวกับการสื่อสารต่างๆ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต งานเกี่ยวกับการเดินทาง งานสังคม เกี่ยวกับเอกสาร สัญญา นักกฎหมาย เกี่ยวการพูด นักพูด ใช้วาทศิลป์ นักเขียน งานการตลาด งานขาย ครู การทูต งานสื่อสิ่งพิมพ์ ผู้สื่อข่าว พิธีกร นักโฆษณา งานประชาสัมพันธ์


คำทำนายจากเดือนที่เกิด คนที่เกิดเดือนแปด เป็นคนที่มีบุญแต่ปางก่อน แต่ก็มีความอาภัพในชาตินี้ มักมีผิวคล้ำหรืดำแดง แม้จะเกิดในตระกูลดีแต่ก็ไม่ได้อบอุ่นสุขสบายนัก มีญาติพี่น้องมาก แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือกูลกันนัก มีแต่ตนเองช่วยเหลือเจือจานผู้อื่น มัก ได้โยกย้ายไปอยู่ต่างถิ่นต่างเมืองแล้วรุ่งเรือง เป็นคนที่พูดจาหวานนุ่มนวลอย่างสุภาพ แต่ถ้าไม่ชอบใจขึ้นมาจะพูดโผงผางออกไปแรง ๆ ไม่เกรงใจใครเวลาโกรธแล้วปากร้ายใจร้าย ความจริงไม่ได้ผูกใจคิดมาก แต่มักแสดงออกร้าย ๆ เพราะเป็นคนเก็บกดจึงเจ้าอารมณ์เจ้าโทโส มักมีน้ำใจไมตรี ชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ชอบทำบุญ มีคุณธรรม ไม่คดโกงไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับใคร ไม่ฉกฉวยผลประโยชน์จากใคร ค่อนข้างซื่อตรง แต่ไม่ตรงคำมั่นสัญญา พูดกับใครก็รับปากไว้แต่ไม่ได้ทำตามนั้น หากเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบแล้วจึงตรงและรักษาสัญญา ดวงชะตาทั่วไปจะลำบากตอนต้นและจะสบายตอนปลาย การศึกษาดีมีความรู้ มีจิตใจทรหดต่อสู้กับชีวิต มักต้องเดินทางเสมอ จึงไม่กลัวคนไม่กลัวปัญหา ใจแข็ง ต้องทุกข์ใจเสมอเพราะทำใจเหี้ยมกับคนอื่นและตัวเองเป็นคนทิฐิแรง ดื้อแรง มักคุยโอ้อวด ใฝ่หาชีวิตที่สุขสงบ มั่นคง ไม่ชอบเข้าหาสังคมที่หรูหรา ไม่ชอบคบหรากับผู้คนคนมากมายนัก โดยทั่วไปไม่ตกยาก นักเพราะมีความขยัน มีคนเกื้อหนุนส่งเสริมที่ลำบากคือต้องเหนื่อยในการทำงานเลี้ยงตัวเอง ดวงจะคูอยู่กับงานเสมอ มีความโดดเด่นมีเกียรติในสายงาน มีความสามารถส่วนตัวพิเศษ ทิฐิของตัวเองทำให้ทุกข์ใจบ่อย ๆ เมื่ออายุ 31-35 ปี จะรุ่งเรืองโรจน์ โดดเด่นในสังคม ช่วงอายุ 40 ปี จะหย่าร้างหรือเปลี่ยนงานต้องย้ายเมืองจึงจะดี อายุ 50 ปีขึ้นไปจะสุขสบายแต่จะเจ็บป่วย

ปฏิทินเดือน สิงหาคม พ.ศ.2533

07 กรกฎาคม 2565

บทเรียนชีวิตที่ต้องเรียนรู้เมื่อคุณอายุ 30

👉คำว่า อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต …มันกำลังเกิดขึ้นในทุกๆ วินาที…ภายใต้การขับเคลื่อนของคำว่า “เวลา”👈

มีหลายอย่างที่ใครต่อใครก็มักจะบอกคุณถึงสิ่งที่คุณควรทำ หรือทักษะที่คุณควรเรียนรู้เมื่อคุณอายุ 30 ปี แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงในวันนี้เกี่ยวกับบทเรียนชีวิตที่คุณควรได้เรียนรู้? อาจเริ่มต้นด้วยคำแนะนำเหล่านี้ คุณอาจจะได้มุมมองชีวิตที่ต่างออกไป

👉แค่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ชัยชนะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่คุณชนะเสมอหากคุณพอใจกับผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณกำหนดมาตรฐานของคุณเอง

👉พัฒนาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
ค้นหาสไตล์ที่เหมาะกับคุณ ไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์ตลอดเวลา แฟชั่นเปลี่ยนได้…แต่สไตล์จะไม่เปลี่ยน การเป็นที่รู้จัก และการแต่งตัวที่ดีนั้นมาจากความทุ่มเทในรูปลักษณ์มากกว่าการรีบเร่งเพื่อให้เข้ากับแฟชั่นล่าสุด

👉อย่าวิตกจริตจนเกินเหตุ
โดยเฉพาะเรื่องของคนอื่นๆ เราทุกคนบนโลกล้วนมีปัญหาของตัวเอง พวกเขากำลังพยายามจัดการกับเรื่องไร้สาระแบบเดียวกับคุณ และพวกเขาก็จะสามารถผ่านมันไปได้เมื่อเวลาผ่านไป

👉หยุดไล่ตามเงิน และสถานะ
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนตรอกซอกซอยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสังคมยุคใหม่ คุณจะไม่มีวันพอถึงแม้จะไม่มีความสงบสุขก็ตาม

👉เวลาเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด
หากคุณสามารถเห็นอายุขัยของคุณลดลงทีละวินาที คุณจะไม่เสียมันไปกับสิ่งที่สิ้นเปลือง ดังนั้นในขณะที่คุณยังพอมีเวลา ก็ควรใช้จ่ายมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อทำสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ

👉ยอมแพ้สิ่งที่เป็นอดีต
คำว่า “มันจบแล้ว” น่าจะนิยามข้อนี้ได้ดีที่สุด มันถูกเขียนในประวัติศาสตร์ และคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับมันได้ ดังนั้นอย่าไปสนใจมันกับสิ่งที่คุณย้อนกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ ใส่ใจกับทุกช่วงเวลาที่อยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า

👉อย่ามัวหมกมุ่นอยู่กับวันพรุ่งนี้
เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ระหว่างนี้ ชีวิตอาจดูเหมือนโลกีย์ในหลายๆ ด้าน แต่บ่อยครั้งมันก็บิดเบี้ยวเกินกว่าจะคาดเดา

👉คุณไม่อาจการควบคุมได้
หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตล้วนเกิดขึ้นในวิถีของมัน ดังนั้นลืมสิ่งเหล่านี้ ประหยัดความพยายามสำหรับสิ่งที่คุณควบคุมได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงการควบคุมบางอย่างก็ตาม

👉พูดว่า ‘ไม่’ ให้บ่อยขึ้น
แน่นอนว่าการพูดว่า ‘ใช่’ กับทุกสิ่งอาจหมายความว่าคุณได้ลองทำสิ่งที่คุณอาจไม่เคยทำมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันคุณเองก็มีโอกาสสำหรับการปฏิเสธเช่นกัน บางครั้งมันอาจจะมีใครโกรธเคืองหากคุณเลือกที่จะไม่เข้าร่วม แต่อย่างน้อยคำตอบของคุณมันก็คือทางเลือกของคุณ

👉พร้อมที่จะไปตามทางของคุณเอง
ลองออกไปทำในสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากกิจวัตรประจำวันของคุณดูบ้าง อาจได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ก็ได้ระหว่างทางน่ะ

👉คีปความเป็นเด็กต่อไป..ไม่ใช่เรื่องผิด
ไม่มีเวลาที่จะทิ้งเรื่องเด็กๆ อย่างที่เช็คสเปียร์คิดไว้ หากเรือจำลอง สเก็ตบอร์ด การ์ตูน หรือการรวบรวมหินเป็นสิ่งที่คุณชอบ และยังคงเป็นไปและทำให้เกิดความสุข ตราบใดที่มันไม่สร้างความเดือดให้กับคุณ และคนรอบข้าง ก็เล่นมันต่อไปสิ

👉รับปรัชญาชีวิต
ไม่ช้าก็เร็ว อาชีพเป็นตัวชี้วัดชีวิตเพียงเล็กน้อย ขุดลึกลงไป คุณอยากอยู่ด้วยมาตรฐานอะไร? ในตอนท้าย คุณอยากจะมองย้อนกลับไปว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้อย่างไร?

👉ฝึกฝนทักษะของคุณ
เรียนทำอาหาร ที่ไม่ใช่เพื่อสร้างความประทับใจ แต่เพื่อรักษาตัวเอง เข้าใจคุณค่าของเงิน…ซ่อมแซมสิ่งที่เสียถ้าทำได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ “ความพอเพียง”

👉ทำความรู้จักจิตใจของคุณเอง
แท้จริงแล้วชีวิตก็เหมือนกับการเล่นกลกับคุณตลอดเวลา การทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงคิดและประพฤติตนในแบบที่คุณทำเป็นขั้นตอนแรกในการหลีกเลี่ยงกับดัก

👉มองมุมกว้างเป็นดั่งจักรวาลมนุษย์
เรารู้แหละว่า…คุณสำคัญสำหรับคุณ… แต่ความจริงก็คือคุณเองก็เป็นเพียงจุดเล็กๆ บนดาวเคราะห์ที่เป็นจุดหนึ่งในดาราจักรที่เป็นหนึ่งในจุดจำนวนนับไม่ถ้วนในความไร้ขอบเขตของเวลา และพื้นที่ ปล่อยให้ความจริงนั้นคลายความกดดันที่คุณเผชิญ

ที่มา: https://www.facebook.com/2051860491696799/posts/3092305360985635/

05 มกราคม 2565

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการใช้งาน Wireless

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการใช้งาน Wireless
• เนื่องจากสัญญาณ Wireless มีลักษณะเป็นคลื่นความถี่ ซึ่งอาจถูกลดทอนความเข้มของสัญญาณ ได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น สิ่งกีดขวาง ระยะทาง ดังนั้นแนะนำให้ท่านวางอุปกรณ์ไว้ในจุดที่สามารถกระจายสัญญาณได้ดี ไม่อับสัญญาณ จัดวาง Router ให้หันไปยังทิศทางที่ต้องการใช้งาน จะทำให้สามารถส่งสัญญาณได้ดีขึ้น
• หากวิธีข้างต้นยังไม่ดีขึ้น ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านที่สัญญาณรบกวนมาก หรือ ขนาดของบ้านไม่เหมาะสมต่ออุปกรณ์เพียงตัวเดียว แนะนำให้ท่าน ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อขยายสัญญาณให้กว้างยิ่งขึ้น เช่น Repeater, AP เป็นต้น

Public IP กับ Private IP ต่างกันอย่างไร?
Public IP คือ IP ที่สามารถใช้สื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ แต่เนื่องจาก IP address มีจำนวนจำกัด จึงไม่สามารถกำหนด Public IP สำหรับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องได้ ดังนั้นจึงมีการกำหนด Private IP เพื่อนำมาใช้ติดต่อภายในหรือ Local network ซึ่งหาก Private IP ต้องการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ก็จะต้องสื่อสารผ่าน Public IP อีกทีหนึ่ง

IPv4 และ IPv6 คืออะไร?
IPv4 คือชุดตัวเลข 32 บิต ที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่วงๆละ 8 บิต ใน 1 ช่วงจะมีค่าตั้งแต่ 0-225 ดังนั้น IPv4 จะมีค่าตั้งแต่ 0.0.0.0 – 255.255.255.255 (แต่ตัวเลขบางชุดจะถูกยกเว้นไว้เพื่อใช้งานเฉพาะ) ถึงแม้จะเป็นช่วงชุดตัวเลขที่มีขนาดกว้างมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก ดังนั้นจึงมีการกำหนดหมายเลข IP ขึ้นมาใหม่ เรียกว่า IPv6 โดยเป็นชุดตัวเลขที่มีขนาดเพิ่มมากขึ้นถึง 128 บิต ซึ่งเพียงพอให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกใช้งานไปได้อีกนานเลยทีเดียว

Port forwarding คืออะไร?
คือการกำหนดเส้นทางของข้อมูลที่ถูกส่งมายัง router ให้ forward ข้อมูลต่อไปยังตำแหน่งที่อยู่หลัง router ในเครือข่าย โดยมี Port เป็นตัวกำหนด ซึ่งการกระทำนี้จำเป็นต้องอาศัยหลักการทำงาน DDNS ด้วย

DDNS คืออะไร?
เนื่องจาก IP ที่ได้จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็น IP ที่ไม่คงที่ จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหรือทุกครั้งที่เปิด/ปิด Router ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่มี IP ที่แน่นอนเพื่อใช้ในการอ้างถึง router DDNS หรือ Dynamic Domain Name system สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ โดย DDNS จะทำจับคู่ระหว่าง IP address ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้นให้เข้ากับ Domain name ที่กำหนดไว้

Access point หรือ AP คืออะไร?
คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อและกระจายสัญญาณไร้สายได้ กล่าวคือ AP สามารถสร้างเครือข่ายไร้สาย จากระบบเครือข่าย LAN ได้ โดยตัวอุปกรณ์จะมีช่องเสียบสาย LAN อยู่ด้านหลังเพียงช่องเดียว และจะกระจายสัญญาณแบบไร้สายไปยังเครื่องลูกข่ายที่อยู่บริเวณรัศมีโดยรอบ

Wireless 2.4 GHz ต่างจาก Wireless 5 GHz อย่างไร ใช้อย่างไหนดีกว่า?
• Wireless 2.4 GHz คือคลื่นสัญญาณหนึ่งที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อินเตอร์เน็ต มีความถี่ที่สูงจึงทำให้สามารถใช้งานในระยะไกลๆได้ แต่มีข้อเสียคือ มีช่องสัญญาณที่ใช้งานได้จำนวนน้อย และในความถี่ระดับ 2.4 GHz นี้ มีสัญญาณอื่นๆในระดับเดียวกันมาก ทำให้เกิดการรบกวนกันของสัญญาณได้ง่าย (เช่น สัญญาณไมโครเวฟ) ดังนั้น หากสภาพแวดล้อมในการใช้งาน เสี่ยงต่อกาถูกรบกวนกันของสัญญาณ ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่เสถียร หลุดการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง
• แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้ Wireless 5 GHz มากกว่า แต่ใน สัญญาณ 5 GHz ก็มีข้อเสียอยู่คือ ใช้งานได้ในระยะที่ไกลน้อยกว่า สัญญาณ 2.4 GHz เนื่องจาก ความถี่น้อยลง ความกว้างของช่องสัญญาณเพิ่มมากขึ้น เป็นผลทำให้ความยาวของคลื่นลดลงนั่นเอง
• หากผู้ใช้งานตรวจสอบแล้วว่าสภาพแวดล้อมมีสัญญาณรบกวนน้อย สามารถใช้งานได้ทั้ง Wireless 2.4 GHz และ 5 GHz แต่หากพบว่าสภาพแวดล้อมมีสัญญาณรบกวนมาก ขอแนะนำให้ผู้ใช้งาน เลือกใช้ Wireless 5 GHz จะให้ประสิทธิภาพที่ดีมากกว่า

Standard Wireless 802.11 IEEE คืออะไร?
คือมาตรฐานของความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลแบบไร้สาย หรือ Wireless ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 5 Class ได้แก่
1. Class a จะใช้คลื่นความถี่ 5 GHz ในการรับ-ส่งข้อมูล ทำความเร็วได้สูงสุด 54 Mbps
2. Class b จะใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz ในการรับ-ส่งข้อมูล ทำความเร็วได้สูงสุด 11 Mbps
3. Class g จะใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz ในการรับ-ส่งข้อมูล ทำความเร็วได้สูงสุด 54 Mbps
4. Class n จะใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ในการรับ-ส่งข้อมูล ทำความเร็วได้สูงสุด 300 Mbps
5. Class ac จะใช้คลื่นความถี่ 5 GHz ในการรับ-ส่งข้อมูล ทำความเร็วได้สูงสุด 1300 Mbps

Bridge Mode คืออะไร สามารถใช้งานได้อย่างไร?
• Bridge Mode คือ โหมดการใช้งานบน router ขนานหนึ่ง ซึ่งเปรียบเสมือนการแปลงสัญญาณจาก Analog เป็น Digital แล้วปล่อยผ่านสัญญาณไปยัง router อีกตัวที่ทำหน้าที่ในการจัดการ IP
• ข้อดีคือ ทำให้การใช้งาน Router มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวหนึ่งทำหน้าที่แปลงสัญญาณ อีกตัวหนึ่งทำหน้าที่จัดการ IP และระบบ Wireless เป็นการลดภาระให้อุปกรณ์ เนื่องจากโดยปกติแล้ว อุปกรณ์แต่ละตัวจะมี CPU และ RAM ที่จำกัด เมื่อเรานำอุปกรณ์ดังกล่าว มาทำงานในหลายๆฟังก์ชัน ในบางครั้งอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่ดีเท่าที่ควร

วิธีแก้ไขปัญหาสัญญาณ Wireless สัญญาณอ่อน/หลุดบ่อย/ไม่เสถียร
• แนะนำให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบค่าสัญญาณด้วยโปรแกรม หรือ แอพพลิเคชันดังด้านล่างนี้ หากใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์ แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรม inssider หรือหากใช้งาน อุปกรณ์มือถือแนะนำแอพพลิเคชัน WiFi Analyzer
• โดยการใช้งานบนโปรแกรม inssider และ แอพพลิเคชัน WiFi Analyzer จะใช้งานในทำนองเดียวกัน คือ สามารถบอกสัญญาณโดยรอบๆว่ามีสัญญาณใดเกาะอยู่ที่ Wi-Fi Channel ใดบ้าง เมื่อผู้ใช้งานตรวจสอบบนกราฟที่แสดงผล หากพบว่า Channel ใด มีการใช้งานน้อย ให้ทำการตั้งค่า สัญญาณ Wi-Fi บน Router ไปที่ Channel นั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการรบกวนกัน ของสัญญาณ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานสัญญาณ Wireless ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การตั้งค่า/การแก้ไข
ปัญหาเบื้องต้นการใช้งานอินเทอร์เน็ต
1. เปิดเบราเซอร์ พิมพ์ www.ipv6test.google.com แล้วกด Enter
2. Website จะแสดงข้อความที่บ่งบอกว่าตอนนี้ลูกค้ากำลังใช้งาน IPv6 อยู่ใช่หรือไม่
3. เปิดเบราเซอร์ พิมพ์ www.whatismyip.com แล้วกด Enter
4. Website จะแสดงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้งาน IPv6 ของลูกค้า เช่น IP ที่ลูกค้าได้รับ, ISP ผู้ให้บริการ เป็นต้น

วิธีการ Enable และ Disable IPv6
ระบบปฏิบัติการ Window
1. คลิก Search ค้นหา Open Network and Sharing Center
2. เปิด Open Network and Sharing Center ขึ้นมา
3. เลือก Wireless Network Connection ที่กำลังใช้งานอยู่
4. เลือก Properties จะมีหน้าต่างแสดงขึ้นมา
5. ทำเครื่องหมายหรือนำเครื่องหมายออก หน้า
Internet Protocol Version6 (TCP/IP) เพื่อทำการ Disable หรือ Enable
6. เลือก OK -> Close

ระบบปฏิบัติการ Mac
1. คลิกที่ สัญลักษณ์ Network ที่อยู่ทางมุมขวาบนของจอ
2. เลือก System Preferences
3. เลือก Network Adapter ที่ต้องการทราบ IP
4. จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา เลือกแท็ป Wi-Fi
5. กดปุ่ม Advanced
6. เลือกแท็ป TCP/IP
7. เลือก Configure IPv6
8. เลือก Enable หรือ Disable

13 ธันวาคม 2564

นิทานตลกเรื่องสาวตาบอด

เกิดเหตุ สาวตาบอด ถูกรุมโทรม ข่มขืน ข่มขืนเฉยๆ นะ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างอื่นเลย

หลังจากเกิดเหตุแล้ว เธอก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ

ตำรวจ : จะบอกเบาะแสอะไร ได้บ้าง ?

สาวตาบอด : มันมากันทั้งหมด 7 คนค่ะ !!!

ตำรวจ : รู้ได้อย่างไร ?

สาวตาบอด : คนแรก น่าจะรับราชการค่ะ

ตำรวจ : ทำไม ถึง คิดว่า เขารับราชการล่ะ

สาวตาบอด : ก็เค้าชอบ เลียแข้งเลียขา แล้วก็ ชอบทำๆ หยุดๆ

ตำรวจ : แล้วคนที่สองล่ะ?

สาวตาบอด : น่าจะเป็น หมอค่ะ

ตำรวจ : ทำไมล่ะ ?

สาวตาบอด : ก็เค้าชอบคลำ จับโน่นจับนี่ แล้วบอกให้นอนนิ่งๆ แล้วพลิกซ้าย พลิกขวา แล้วก็เฝ้าถามอยู่แต่ว่า เจ็บมากมั้ย เจ็บมากมั้ย  

ตำรวจ : แล้วคนที่สามล่ะ?

สาวตาบอด : น่าจะ ทำงานเอกชน

ตำรวจ : ทำไมล่ะ

สาวตาบอด : คนนี้ ทำไม่หยุดเลยค่ะ... ส่วนคนที่สี่น่าจะเป็นครูนะ

ตำรวจ : รู้ได้ไง ?

สาวตาบอด : คนที่สี่ นี่ทำไปสอนไปค่ะ .. หนูล่ะอยากจะบร้า กรูโดนข่มขืนอยู่นะโว้ยยย สอนอยู่ได้ แถมทำเสร็จ มีการจะมาให้คะแนน หนูอีกแน่ะ

ตำรวจ : แล้วคนที่ห้าล่ะ  

สาว ตาบอด : คนที่ห้า กับที่หก นี่ สงสัยจะเป็นนักการเมืองค่ะ

ตำรวจ : คุณรู้ได้ยังไง

สาวตาบอด : ไอ้สองคนนี้ มันทำไป ป้อนคำหวานไปค่ะ บอกว่า เสร็จแล้ว จะให้โน่น ให้นี่ อย่าไปแจ้งความนะ มันบอกว่าอาจจะเลี้ยงดูหนูเลยก็เป็นได้ แล้วหนูรู้ด้วยนะ ว่า 2 คนนี้ เค้าอยู่พรรคไหน กัน คนที่ห้านี่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่คนที่หก อยู่พรรคเพื่อไทย

ตำรวจ : เฮ่ยยยยย จะเก่งเกินไปแล้ว หนูรู้ได้ไง

สาวตาบอด : รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ก็คนที่ห้า มันทำไป ป้อนคำหวานไป แต่มันทำไม่เสร็จ ส่วนคนที่หก ป้อนเหมือนกัน แต่มันทำจนเสร็จ ค่ะ

ตำรวจ : 5 5 5 ( เผลอหัวเราะ) หนูนี่เก่ง จิง มาถึง คนสุดท้าย แล้ว คนสุดท้ายนี่ ใคร

สาวตาบอด : คนสุดท้าย นี่ เป็น ทหาร แน่นอน ร้อย % เลยค่ะ หนูมั่นใจสุดๆ

ตำรวจ : ยังไง ไหนลองว่าไปซิ

สาวตาบอด : ก็คนสุดท้ายนี่ล่ะค่ะ ที่ข่มขืน หนูรุนแรงที่สุด พอเสร็จแล้ว หนูก็ต้องร้องไห้ ใช่มะ ...แล้วมันก็ดุเอา บอกแต่ว่า จะร้องทำไม จะร้องทำไม เอาความสุขมาคืนให้แท้ๆ จะร้องทำไม ขืนร้องอีก จะเรียกไปปรับทัศนคติ
     เนี่ยล่ะค่ะ หนูถึงมั่นใจ ว่ามานเป็น ต๊ะหาน !! 555

23 พฤศจิกายน 2564

กลอนสัปดน

หยิบกระดาษดินสอมาจอดับ เขียนแล้วพับอ่านดีครบสี่หน
ให้เสนีมีหือถือนิพนธ์ เด็กหนึ่งคนก้มพักตร์มาดักรอ
จึงตรัสใช้เสนีให้คลีหาน สูรีบผ่านบ่ายพักตร์เถอะดักหยอ
ผมเป็นโรคเหน็ดเหนื่อยหัวเดือยปอ รักษาพอมาคลายกินหายควี
แต่นายใช้จำกัดดัดไม่ขอ ถึงเด็กลอก็ต้องไปถึงไหหยี
รับสาโรโคตวยพวยทันที จากบุรีเร็วพลันดันไม่รอ
เข้าป่าแกแลทั่วกลัวผีเห็น เดินเย็นๆตัดตรงเข้าดงหลอ
พบสระศรีบัวชุกดุกขึ้นออ เด็ดสองลอดมกลิ่นหอมหมินดี
ชะนีหงส์ลงดินลงกินน้ำ เดินมุ่งตามเห็นรอยหอยกับหมี
พบเบื้องอ่างถางใหญ่ไหของคี ใครมาตีแตกสะเก็ดเหมือนเด็ดยอ
เที่ยวจรดลยนเค็ดไม่เสร็จเรื่อง ใกล้ถึงเมืองหิวจี้ไม่มีหอ
อดข้าวน้ำสามวันดันทั้งวอ บอบเสียพอตัวกูเรื่องหูรี
พบดอกตอกอดำจำต้องเด็ด ยีให้เหม็ดเกลี้ยงวาวเหมือนหาวสี
บรรลุถึงเขตทางเมืองห้างชี เจ้าธานีหัวด่างเป็นสางคลอ
กำแพงก่อต่อด้านทหารเฝ้า เสียงคนฉาวเข้าไปถึงไดหลอ
พวกเสนาเซ็กเซ็กเด็กมารอ มายืนออถามดูแล้วหูดี
เราจากไกลไฉแข็งเก่งนักหนา ถือสาราจะเข้าไปให้ไหหยี
ท้าวโบตักจอมวังยังพอดี เจ้าหิ้นปลีคีหันหรือฉันใด

เพื่อนมันเล่าให้ฟัง

จริงๆ มันจบไปตั้งนานแล้วไม่รู้จะยื้อจะฝืนให้มันได้อะไร จากที่ยังพอคุยกันได้ในฐานะเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก กลายเป็นว่ายิ่งยื้อยิ่งฝืนยิ่งท...