13 ธันวาคม 2564

นิทานตลกเรื่องสาวตาบอด

เกิดเหตุ สาวตาบอด ถูกรุมโทรม ข่มขืน ข่มขืนเฉยๆ นะ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างอื่นเลย

หลังจากเกิดเหตุแล้ว เธอก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ

ตำรวจ : จะบอกเบาะแสอะไร ได้บ้าง ?

สาวตาบอด : มันมากันทั้งหมด 7 คนค่ะ !!!

ตำรวจ : รู้ได้อย่างไร ?

สาวตาบอด : คนแรก น่าจะรับราชการค่ะ

ตำรวจ : ทำไม ถึง คิดว่า เขารับราชการล่ะ

สาวตาบอด : ก็เค้าชอบ เลียแข้งเลียขา แล้วก็ ชอบทำๆ หยุดๆ

ตำรวจ : แล้วคนที่สองล่ะ?

สาวตาบอด : น่าจะเป็น หมอค่ะ

ตำรวจ : ทำไมล่ะ ?

สาวตาบอด : ก็เค้าชอบคลำ จับโน่นจับนี่ แล้วบอกให้นอนนิ่งๆ แล้วพลิกซ้าย พลิกขวา แล้วก็เฝ้าถามอยู่แต่ว่า เจ็บมากมั้ย เจ็บมากมั้ย  

ตำรวจ : แล้วคนที่สามล่ะ?

สาวตาบอด : น่าจะ ทำงานเอกชน

ตำรวจ : ทำไมล่ะ

สาวตาบอด : คนนี้ ทำไม่หยุดเลยค่ะ... ส่วนคนที่สี่น่าจะเป็นครูนะ

ตำรวจ : รู้ได้ไง ?

สาวตาบอด : คนที่สี่ นี่ทำไปสอนไปค่ะ .. หนูล่ะอยากจะบร้า กรูโดนข่มขืนอยู่นะโว้ยยย สอนอยู่ได้ แถมทำเสร็จ มีการจะมาให้คะแนน หนูอีกแน่ะ

ตำรวจ : แล้วคนที่ห้าล่ะ  

สาว ตาบอด : คนที่ห้า กับที่หก นี่ สงสัยจะเป็นนักการเมืองค่ะ

ตำรวจ : คุณรู้ได้ยังไง

สาวตาบอด : ไอ้สองคนนี้ มันทำไป ป้อนคำหวานไปค่ะ บอกว่า เสร็จแล้ว จะให้โน่น ให้นี่ อย่าไปแจ้งความนะ มันบอกว่าอาจจะเลี้ยงดูหนูเลยก็เป็นได้ แล้วหนูรู้ด้วยนะ ว่า 2 คนนี้ เค้าอยู่พรรคไหน กัน คนที่ห้านี่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่คนที่หก อยู่พรรคเพื่อไทย

ตำรวจ : เฮ่ยยยยย จะเก่งเกินไปแล้ว หนูรู้ได้ไง

สาวตาบอด : รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ก็คนที่ห้า มันทำไป ป้อนคำหวานไป แต่มันทำไม่เสร็จ ส่วนคนที่หก ป้อนเหมือนกัน แต่มันทำจนเสร็จ ค่ะ

ตำรวจ : 5 5 5 ( เผลอหัวเราะ) หนูนี่เก่ง จิง มาถึง คนสุดท้าย แล้ว คนสุดท้ายนี่ ใคร

สาวตาบอด : คนสุดท้าย นี่ เป็น ทหาร แน่นอน ร้อย % เลยค่ะ หนูมั่นใจสุดๆ

ตำรวจ : ยังไง ไหนลองว่าไปซิ

สาวตาบอด : ก็คนสุดท้ายนี่ล่ะค่ะ ที่ข่มขืน หนูรุนแรงที่สุด พอเสร็จแล้ว หนูก็ต้องร้องไห้ ใช่มะ ...แล้วมันก็ดุเอา บอกแต่ว่า จะร้องทำไม จะร้องทำไม เอาความสุขมาคืนให้แท้ๆ จะร้องทำไม ขืนร้องอีก จะเรียกไปปรับทัศนคติ
     เนี่ยล่ะค่ะ หนูถึงมั่นใจ ว่ามานเป็น ต๊ะหาน !! 555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อนมันเล่าให้ฟัง

จริงๆ มันจบไปตั้งนานแล้วไม่รู้จะยื้อจะฝืนให้มันได้อะไร จากที่ยังพอคุยกันได้ในฐานะเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก กลายเป็นว่ายิ่งยื้อยิ่งฝืนยิ่งท...